วันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2553

การแต่งตั้งปลัดกระทรวงมหาดไทยคนใหม่ นายมงคล สุระสัจจะ

มีชัย"แนะ 41 นอภ.ฟ้องศาลปกครอง หลังถูกยกเลิกคำสั่งแต่งตั้ง "ชวรัตน์"ไม่ยุ่ง โยน"มานิต"เคลียร์เอง

นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.) ยืนยันว่าการแก้ปัญหากรณีคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการ (ก.พ.ค.) ลงมติให้กระทรวงมหาดไทย เพิกถอนคำสั่งแต่งตั้งข้าราชการกรมการปกครอง ระดับ 9 ที่ 28/2553 เนื่องจากเป็นการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่ตรงตามหลักเกณฑ์นั้นต้องรอฟังความเห็นจากนายมานิต วัฒนเสน ปลัดกระทรวงมหาดไทยเท่านั้น โดยสัมภาษณ์เมื่อวันที่ 26 สิงหาคมว่า ข้าราชการประจำในระดับ 8 ตนไม่ค่อยได้ยุ่งเท่าไหร่ คงต้องรอให้นายมานิต กลับมาจากต่างประเทศก่อน โดยจะฟังจากปลัดกระทรวง และต้องรอดูผลสอบของคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ความผิดพลาดในการออกคำสั่งที่ผู้อาวุโสน้อยได้รับการแต่งตั้งส่อให้เห็นถึงการทุจริตหรือไม่ นายชวรัตน์กล่าวว่า ยังใช้คำว่าความผิดพลาดไม่ได้ แต่เป็นการทักท้วงของ ก.พ.ค.มากกว่า ส่วนเรื่องการทุจริตคงไม่มี แต่เรื่องการแต่งตั้งนี้ผู้ใหญ่ที่เสนอขึ้นมา คงเห็นถึงความเหมาะสม ฝีมือของลูกน้อง เมื่อถามว่า กระทรวงมหาดไทยจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ในการแต่งตั้งโยกย้ายไม่เป็นธรรมมาโดยตลอด นายชวรัตน์กล่าวว่า หากพูดอย่างนี้ก็ไม่เป็นธรรมกับกระทรวงมหาดไทย ต้องดูอัตราส่วนของพนักงาน เรามีพนักงานมากที่สุด ต้องเกิดเรื่องมากที่สุด บางหน่วยงานมีคนไม่ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ของเรา แต่ถ้าเอาเรื่องมาเปรียบเทียบเรื่องของเขาอาจมากกว่าเราก็ได้ เมื่อถามว่า กลุ่มนายอำเภอที่ถูกข้ามอาวุโสจะไปร้องศาลปกครอง และยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันแะลปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายชวรัตน์กล่าวว่า ถือเป็นสิทธิ แต่ควรยุติในขั้นตอนของข้าราชการประจำ เพราะฝ่ายการเมืองไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง
ด้านนายพงศ์โพยม วาศภูติ อดีตปลัดกระทรวงมหาไทย กล่าวว่า ข้าราชการเป็นทรัพยากรบุคคลของรัฐถ้าเอาไปใช้เพื่อสนองนโยบายของรัฐไม่มีปัญหา แต่ทุกวันนี้การเมืองเอาข้าราชการไปสนองประโยชน์ส่วนตัว นโยบายส่วนตัว การที่ข้าราชการคนหนึ่งจะยอมทำก็ต้องผลประโยชน์พอกัน นั่นคือ เลื่อนตำแหน่งติดจรวดเลย ถ้าการเมืองดึงข้าราชการเข้าหาโดยเอาผลประโยชน์ของตำแหน่งหน้าที่มาล่อ ต่อไปข้าราชการก็รับใช้การเมือง แทนที่จะรับใช้บ้านเมืองและประชาชน รับใช้กฎเกณฑ์ระเบียบกฎหมาย
นายพงศ์โพยมกล่าวอีกว่า การยกเลิกคำสั่ง 28/2553 กระทรวงมหาดไทยจะต้องดำเนินการตาม ก.พ.ค.จะมาอุทธรณ์ไม่ได้ แต่ถ้ายกเลิกคำสั่ง แล้วตั้งคนเดิมขึ้นมาใหม่ก็ไม่จบ เพราะยังไม่มีการตอบว่าอาวุโสคืออะไร ไม่เข้าใจว่าระบบคุณธรรมคืออะไร น่าเสียใจที่นายมานิต วัฒนเสน ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในอดีตเคยเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในขณะที่ตนเป็นผู้ว่าฯภูเก็ต เขาเป็นลูกน้องของตนแต่ไม่เคยเอาสิ่งดีๆ ไปเลย

(โดยนางสาว อุไรรัตน์ เชื้องลางสาด รปศ.531 เลขที่ 52)

หลักการบริหารของ เจมส์ มูนเนย์ และอลัน ไรเลย์

หลักการบริหารของเจมส์ มูนเนย์ และอลัน ไรเลย์ ได้มีการปรับปรุงใหม่และมีแนวคิดสนับสนุนผลงานของเฟโยล์
ตัวอย่างเช่น
อาจราย์ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มกันทำรายงานมาส่งอาจารย์กลุ่มละ1 เล่มพร้อมตกแงให้สวยงาม ในแต่ละกลุ่มที่แบ่งออกมาตามคำสั่งของอาจารย์แล้ว ในกลุ่มก็จะต้องมี หัวหน้ากลุ่มอยู่ 1 คน รองหัวหน้ากลุ่ม 1 คน ที่จะคอยสั่งการและแบ่งงานให้แก่สมาชิกในกลุ่มทำตามความถนัดของบุคคลนั้น
เช่น ปุ้มเขียนสวยก็ให้เขียนรายงาน น้องวาดรูปสวยก็ให้อยู่ฝ่ายตกแต่ง ตุ๊กตาใช้คอมพิวเตอร์เก่งก็ให้ค้นหาข้อมูล เป็นต้น เมื่อทุกคนรู้หน้าที่ของตนเองว่าจะต้องทำงานอะไรบ้าง และแยกย้ายกันไปทำโดยมีหัวหน้าและรองหัวหน้าเป็นคนประสานงานให้แต่ละฝ่ายมารวมตัวกันทำงาน เช่น ให้ปุ้มเอาข้อมูลที่ตุ๊กตาหามาเขียน เมื่อเขียนเสร็จก็เอาไปให้น้องตกแต่งและนำมาให้หัวหน้าและรองหัวหน้ามาตรวจดูความถูกต้อง และเย็บเล่มพร้อมส่งอาจารย์

จัดทำโดย นางสาว สุนิสา ลัทธิธรรม เลขที่ 39 ห้อง รปศ.531

กลอนวันครู..

อันคุณครูคำนี้มีความหมาย
อันหลากหลายคำพูดจะกล่าวถึง
คือ ผู้ให้ทรัพย์วิชาน่าคำนึง
คือ ผู้ซึ่งอบรมให้ทำดี
อีกครูนี้เหมือนพ่อแม่คนที่สอง
ครูจึงต้องอดทนต่อหน้าที่
เพียงสั่งสอนเป็นแม่พิมพ์ศิษย์มากมี
เรือจ้างนี้น้ำใจงามนามว่าครู..
จัดทำโดย นางสาว สุนิสา ลัทธิธรรม เลขที่39 ห้อง รปศ.531

การแต่งตั้งปลัดกระทรวงคนใหม่ นายมงคล สุระสัจจะ

พงศ์โพยม วาศภูติ

อดีตบิ๊ก ขรก.มหาดไทย ในนามสมาคมข้าราชการบำนาญรุมจวกการแต่งตั้งโยกย้ายในกระทรวงสุดเหม็นโฉ่ "พงศ์พโยม" สับเละรับไม่ได้ตั้ง "มงคล สุระสัจจะ" ขึ้นปลัดฯ ทั้งที่อาวุโสรั้งท้าย ยุ ผวจ. 30 คนออกมาแสดงพลัง ไม่ต้องกลัวถูกเด้ง..
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 27 ส.ค. ที่สมาคมข้าราชการบำนาญ กระทรวงมหาดไทย โดยนายโชดก วีรธรรม พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมฯ และอดีตอธิบดีกรมการปกครอง นายไพโรจน์ พรหมสาส์น อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายพงศ์โพยม วาศภูติ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย นางนิพัทธา อมรรัตนเมธา อดีตผวจ.ปทุมธานี อุปนายกสมาคมฯ และสมาชิกสมาคมฯ ร่วมแถลงกรณีการแต่งตั้งโยกย้ายในกระทรวงมหาดไทย
นายโชดก กล่าวว่า ปัจจุบันการแต่งตั้งโยกย้ายในทั้งในส่วนของนายอำเภอ รวมไปถึงสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ทำให้เกิดความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียงกระทรวงมหาดไทยเป็นอย่างมาก เหมือนน้ำในคลองหลอดที่เน่าเหม็นไปหมด การเมืองล้วงลูกลึกจนเกินไป ทำให้ระบบข้าราชการเสียหาย ข้าราชการอึดอัด แต่ไม่กล้าทำอะไร
นายพงศ์โพยม กล่าวว่า การเสนอชื่อนายมงคล สุระสัจจะ อธิบดีกรมการปกครอง มาเป็นปลัดกระทรวง ทั้งที่อาวุโสอยู่ในลำดับที่ 54 ซ้ำยังมีผู้ว่าราชการจังหวัดอีกถึง 35 คน ที่อาวุโสมากกว่า ตนรับไม่ได้กับเรื่องนี้ เพราะการเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเพียง 1 ปี เป็นอธิบดี 2 กรมในเวลา 1 ปี มีความรู้ความสามารถอะไรถึงได้มาเป็นปลัดกระทรวง อยากให้ผู้ว่าราชการจังหวัด 20-30 คน ที่ไม่เห็นด้วยออกมาแสดงออกในเรื่องนี้ อย่าไปกลัวว่าจะโดนย้ายไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง
"นายมงคล เป็นรอง ผวจ.และผวจ.บุรีรัมย์ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามาด้วยการเมืองหรือไม่ เพราะที่บุรีรัมย์ก็มีนักการเมืองที่เป็นบุคคลสำคัญอยู่"
นายพงศ์พโยม กล่าวด้วยว่า การแต่งตั้งครั้งนี้ อาจจะผิด พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน ที่ระบุว่าการเลื่อนตำแหน่ง ต้องไม่นำความคิดเห็นทางการเมือง หรือสังกัดพรรคการเมืองมาประกอบการพิจารณา ดังนั้นเป็นหน้าที่ของหัวหน้ารัฐบาล เป็นอำนาจของ รมว.มหาดไทยที่จะต้องดูไม่ให้ผิดกฎหมาย.

(โดยนางสาว จันทิมา สิทธิการ รปศ.531 เลขที่ 8)

ครม.ไฟเขียวให้มงคลนั่งแท่นปลัดมหาดไทย

ครม. 10 สิงหาคม ลงมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายมงคล สุระสัจจะเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทยคนใหม่แทน
นาย มานิต วัฒนเสน ปลัดกระทรวงมหาดไทยคนเก่าที่เกษียณอายุ โดยมีนายชวรัตน์ ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเห็นชอบว่านายมงคล การแต่งตั้งนายมงคลถือว่าสมเหตุสมผลเพราะเคยดำรงตำปหน่งอธิบดีกรมการปกครองที่เป็น
กรมที่ใหญ่ที่สุดในกระทรวงมหาดไทยและจะสามารถสานต่อปลัดคนเก่าได้ แต่ยังมีข่าวว่านายมงคลเป็นคนสนิทของนายเนวิน
ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย และถูกตั้งข้อสังเกตว่านายมงคลขึ้นมาเร็วเกินไปหรือไม่ข้ามขั้นมากเกินไป
ที่ขึ้นมาดำรงตำแหน่งนี้นายชวรัตน์ก็เปิดเผยว่า ทุกคนทำงานมืออาชีพ ไม่มีใครเป็นของใครแต่ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม
และข้าราชการก็ต้องใกล้ชิดกับเจ้านายและต้องมีผลงาน การเลือกนายมงคล เป็นปลักกระทรวงมหาดไทย นายเนวินปูทางไว้ให้นายมงคลตั้งแต่นายมงคลย้ายมาดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครอง และได้เจรจากับนายสุเทพ รองนายกรัฐมนตรีก่อนหน้านี้แล้วและนายสุเทพก็ไม่ได้ขัดข้องเพราะถือว่าเป็นอำนาจของกระทรวงมหาดไทย

โดย นางสาว สุนิสา ลัทธิธรรม เลขที่39 รปศ.531

ปลัดกระทรวงมหาดไทย

ปลัดกระทรวงมหาดไทยคนใหม่คือ นาย มงคล สุระสัจจะ ได้ขึ้นมาดำรงตำแหน่งในวันที่10ส.ค 2553 โดยได้รับการยืนยันจากนาย ชวรัตน์ ชาญวีรกูล ว่าเป็นคนมีความสามารถ
นายมงคล สุระสัจจะ ได้ขึ้นมาดำรงตำแหน่ง ปลัดกระทรวงมหหาดไทยคนใหม่โดยน่าจะอาศัยนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งท่านได้ยืนยันให้นาย มงคล สุระสัจจะ เป็นปลัดกระทรวงมหาดไทยคนใหม่เพราะเห็นว่าเป็นคนที่ย้ายมาจากกรมที่ใหญ่ที่สุดในกระทรวงและยังทำงานมาหลายกรม
นาย มงคล สุระสัจจะ โตได้เพราะมีความใกล้ชิดกับนักการเมือง นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล กล่าวและเชื่อว่าสามารถจะประสานงานต่อจากนาย มานิต วัฒนเสน ปลัดกระทรวงมหาดไทยคนปัจจุบันที่จะเกษียณอายุราชการได้
จากแนวคิดของวูดโรว์ วิลสันที่ว่าการบริหารไม่สามารถแยกออกจากการเมืองได้ กล่าวคือปลัดกระทรวงมหาดไทยคนใหม่ขึ้นมาดำรงตำแหน่งได้เพราะอาศัยบารมีของนักการเมือง
การกำหนดนโยบายต่างๆถึงแม้ฝ่ายบริหารจะเป็นผู้ออกกฏหมายซึ่งอยู๋ภายใต้ฝ่ายนิติบัญญัติแต่นักการเมืองก็ยังเกี่ยวข้องเสมอมา
นักการเมืองคนปัจจุบันขึ้นมาดำรงตำแหน่งได้เพราะอาศัยบารมีของนักการเมืองเพราะฉะนั้นการบริหารก็ไม่สามารถแยกออกจากการเมืองได้


นางสาว กาญจนา ทองหนู เลขที่4 รปศ.531

กลอนวันครู

แม้งานหนักเหน็ดเหนื่อยไม่เคยบ่น
สู้อดทนส่งเสริมศิษย์พิชิตฝัน
อุตส่าห์สอนทุกวี่วัน
จิตมุ่มั่นอบรมจริยา
หวังเห็นศิษย์ก้าวหน้าในชีวิต
โดยอุทิศแรงกายให้สมค่า
คำว่าครูผู้ที่ใช้ซึ่งปัญญา
แก้ปัญหานานานับประการ



โดย นางสาว กาญจนา ทองหนู เลขที่ 4 รปศ 531

วันจันทร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2553

การแต่งตั้งปลัดกระทรวงมหาดไทยคนใหม่

นาย มงคล สุระสัจจะ ได้ขึ้นมาดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทยคนใหม่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในหลายด้านเช่น ไม่เหมาะสมเพราะอาวุโสน้อย เกรงว่าหากปล่อยปะละเลยจะทำให้เกิดความปั่นป่วนในกระทรวง และส่งผลต่อขวัญและกำลังใจของข้าราชการ อีกอย่างมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่านาย มงคล เป็นคนสนิทของนาย เนวิน ชิดชอบ มีการกล่าวจากหลายด้านว่าตั้งแต่มีนาย ชวรัตน์ ชาญวีรกูล เป็นรมว.มหาดไทยการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในกระทรวงก็ค่อนข้างจะพิสดารไม่ยึดระบบอาวุโสและความสามารถแต่เป็นการแต่งตั้งตามใจชอบและคนใกล้ชิด หากคนใดเคยรับราชการในจังหวัดบุรีรัมย์มักจะเติบโตแบบตอนกิ่งที่ไม่ได้โตมาจากเมล็ด
ในสมัยที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นรมว.มหาดไทย ยึดหลักที่ว่า คนที่จะเป็นผู้ว่าฯได้นั้นต้องเป็นรองผู้ว่าฯมาแล้ว 2ปีมีผลงานความสามารถ ไม่เคยคิดว่าจะเป็นคนของใคร หรือเป็นศัตรูของใคร แต่วันนี้หลักการนี้หายไปหมด บางคนเป็นรองผู้ว่าฯ ปีเดียวก็นำมาพิจารณาให้เป็นผู้ว่าฯ ได้แล้วกระทรวงมหาดไทยยุคนี้เปลี่ยนจาก “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข มาเป็นสร้างทุกข์ บำบัดสุข” หากข้าราชการเติบโตมาจากการวิ่งเต้น และแสวงหาบ้านเมืองก็จะลำบาก

วิเคราะห์ข่าวจากแนวความคิดของ วูดโรว์ วิลสัน ที่ว่าด้วย การบริหารไม่สามารถแยกออกจากการเมืองได้
กล่าวคือ การกำหนดนโยบายของฝ่ายบริหารนอกจากจะขึ้นอยู่กับการควบคุมของฝ่ายนิติบัญญัติแล้วยังต้องขึ้นอยู่กับประชาชนผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ต่างๆและสื่อมวลชนด้วย คือ กลุ่มผลประโยชน์จะคอยดูว่าการตัดสินใจของฝ่ายบริหารมีผลกระทบต่อกลุ่มของตนอย่างไร กล่าวคือ การที่นายมงคล ได้เข้ามารับตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทยคนใหม่นั้นนอกจากจะผ่านการกลั่นกรองจากคณะกรรมการแล้วยังต้องทำตามหลักการที่ปฏิบัติมาทุกยุคทุสมัยและได้รับการยอมรับจากประชาชนหรือเข้ามาทำงานตามกระบวนการปฏิบัติทุกอย่างไม่ใช่เห็นว่าเป็นคนสนิทของใครหรือเป็นคนรักของใครหากปฏิบัติอย่างนั้นบ้านเมืองก็จะขาดคุณธรรม เกิดความวุ่นวายต่าง ๆขึ้นมาได้ หากปฏิบัติตามหลักการที่ผ่านๆมานั้นจะทำให้ได้รับประโยชน์กันทุกๆฝ่าย ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ

(โดย นางสาว ทัศนีย์ จันทร์เพชรศรี เลขที่ 15 รปศ.531)

วันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ทฤษฎี x และทฤษฎี y โดยดักลาส แมคเกรเกอร์

ดักลาส แมคเกรเกอร์ศาสตราจารย์จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งแมสซาชูเสตส์ ได้เขียนหนังสือเล่มหนึ่งชื่อว่า the human side of enterprise ในทฤษฎีนี้เขาได้ตั้งสมมุติฐานว่าวิธีการจูงใจคนมี2 วิธี คือ วิธีแบบเดิมหรือเรียกว่าtheory x และวิธีแบบมนุษยสัมพันธ์หรือเรียกว่า theory Y

ในทฤษฎีx มีสระดังนี้

1.ฝ่ายจัดการมีความรับผิดชอบที่จะจัดส่วนประกอบขององค์การ

2.ฝ่ายจัดการมีหน้าที่ควบคุมวิธีการจูงใจ

3.ถ้าฝ่ายจัดการไม่ทำหน้าที่ควบคุมอย่างใกล้ชิดแล้วคนงานจะขี้เกียจ

นอกจากนี้แล้วได้เสนอต่อไปอีกเกี่ยวกับธรรมชาตฺของมนุษย์ ไว้ว่า มนุษย์มีสันดานขี้เกียจ ขาดความทะเยอทะยาน เห็นแก่ตัว ไม่ฉลาด

ส่วนในทฤษฎี y เป็นแนวคิดแบบมนุษยสัมพันธ์ยกย่องศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์

1.ฝ่ายจัดการมีความรับผิดชอบที่จะจัดระบบปัจจัยการผลิตในองค์การ

2.โดยธรรมชาติแล้วมนุษย์ไม่เฉื่อยชา

3.มนุษย์ทุกคนมีพื้นฐานที่ดีอยู่แล้ว

4.หน้าที่สำคัญยิ่งของฝ่ายจัดการคือ จัดสภาพและวิธีการผลิตภายในองค์กร

ทฤษฎีxไม่มีความสามารถตอบสนองความต้องการที่จะมีฐานะเด่นและได้รับการยกย่องในสังคมส่วนในทฤษฎี y ยกย่องศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์และเชื่อว่าสามารถจูงใจคนงานได้มากว่าทฤษฎี x

ทฤษฎี x และทฤษฎี y ต่างก็มีความสำคัญในต่างกันไป แต่ถ้าจะนำไปใช้เพื่อให้เกิดปะโยชน์ ต้องพิจรณาและใช้ให้เหมาะสม ในทฤษฎีx และ y ทฤษฎี y จะยกย่องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และทฤษฎี xไม่มีการตอบสนองความต้องการที่จะมีฐานะเด่นและได้รับการยกย่องในสังคม

(นางสาวอุไรรัตน์ เชื้อลางสาด เลขที่52 รปศ 531)

ทฤษฎีพัฒนาการด้านบุคลิกภาพโดย คริส อาร์จิริส

นักวิชาการชั้นนำในกลุ่มทฤษฎีมนุษยสัมพัธ์ท่านหนึ่ง ได้แก่ คริส อาร์จิริส ศ.จากมหาวิทยาลัยเยล ได้เขียนหนังสือชื่อ Personality Development และได้นำเสนอทฤษฎี พัฒนาการด้านบุคลิกภาพ มีแนวคิดได้ดังนี้1.มนุษย์ที่มีสุขภาพจิตดี คือ บุคคลที่ผ่านกระบวนการพัฒนาเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งเปลี่ยนจากคนเฉื่อยชาเป็นคนที่กระตือรือร้นในการทำงาน ซึ่งถือว่าเป็นคนที่พัฒนาได้ดีอีกระดับหนึ่ง2.การจัดองค์การแบบระบบราชการ ซึ่งเป็นการจัดโครงสร้างแบบเป็นทางการในรูปพีระมิด เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตพัฒนาเป็นผู้ใหญ่ เป็นการจัดที่ไม่เปิดโอกาสให้คนใช้ความสามารถได้อย่างเต็มที่ สาเหตุท่จัดโครงสร้างนี้เนื่องจากโครงสร้างดังกล่าวกดดันให้คนงานได้พัฒนาเป็นผู้ใหญ่3.การออกแบบองค์การตามความคิดแบบระบบราชการหาใช่เป็นวิธีทางออกแบบที่ส่งผลให้องค์การเกิดประสิทธิผลไม่ เพราะคนงานงานที่พัฒนาตัวเองเป็นผู้ใหญ่แล้วจะรู้สึกกระอักกระอ่วน และไม่สบายใจที่ต้องมาทำงานในสภาพเช่นนี้ ผลคือ คนงานที่เป็นผู้ใหญ่จะวางเฉยไม่กระตือรือร้นทำงานเท่าใดนัก เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วองค์องค์การจะไม่ได้ประสิทธิผลแน่

สรุป จากความคิดของคริสอาร์จิริสได้ให้ดิฉันคิดถึงชีวิตของคนๆหนึ่งและได้ยกมาให้ผู้อ่านได้รู้เกี่ยวกับชีวิตของนิดตอนเด็กนิดเป็นคนที่มีความเฉื่อยชาไม่มีความกระตือรือร้นในหน้าที่ของตนเป็นคนที่ปล่อยประละเลยและเพื่อนๆทุกคนของเขาจะสังเกตุได้ว่าเขามีจิตใจที่ไม่ร่าเริงแจ่มใสแต่เดี๋ยวน้เมื่อเขาย่างเข้าสู่วัยผู้ใหญ่เขาเริ่มมีความคิดชีวิตของเขาก็เปชีวิตของเขาก็เปลี่ยนจากการเป็นคนเฉื่อยชาไม่เอาไหนกลายเป็นคนมีความกระตือรือร้นรุจักรับผิดชอบหน้าที่อ่านของตนและเมื่อเขาได้ทำงานก็จะมีจิตใจที่ร่าเริงแจ่มใสไม่อยู่อย่างงมงายเป็นเพราะนิดเป็นเพราะนิดเป็นคนที่เริ่มมีชีวิตที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้นและสามารถปรับเปลี่ยนชีวิตของตนได้โดยนำหลักของคริสอาร์จิริสมาเนแนวคิดในการพัฒนาตัวเองทำให้เขามีสุขภาพจิตที่แจ่มใสร่าเริงและขยันทำงานและสามารถเป็นผู้นำได้นี่คือการเปิดโอกาสให้คนได้พัฒนาตนเองโดยไม่ว่าเราจะเป็นใครแต่ถ้ามีสุขภาพจิตที่ดีมีคนเปิดโอกาสให้เราๆก็สามารถปรับเปลี่ยนชีวิตให้ดีกว่าเดิมได้

(โดย นางสาว กาญจนา ทองหนู เลขที่4 รปศ.531)

วันอาทิตย์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ลำดับขั้นความต้องการของมนุษย์ โดย อับราฮัม มาสโลว์(ความต้องการของมนุษย์เป็นเรื่องธรรมดา)



มาสโลว์ (Maslow) แบ่งความต้องการของมนุษย์ออกเป็น 5 ลำดับ ดังนี้

ขั้นที่ 1 ความต้องการทางกายภาพ(Physiological Needs)

เป็นความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์ซึ่งจะขาดไม่ได้ ได้แก่ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค

ที่อยู่อาศัย และการพักผ่อน เป็นต้น

ขั้นที่ 2 ความต้องการความมั่นคงปลอดภัย(Safety Needs)

ความต้องการทางด้านความปลอดภัยดังกล่าวอาจแบ่งได้เป็น 2 แบบ คือ ความปลอดภัยทางร่างกาย

เช่น ปลอดภัยจากอุบัติเหตุ โจรผู้ร้าย และความมั่นคงทางเศรษฐกิจ เช่น ความมั่นคงทางการงานที่ทำ

ขั้นที่ 3 ความต้องการทางสังคม (Social needs)

ความต้องการที่จะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสังคม

ขั้นที่ 4 ความต้องการยกย่องและยอมรับ(Esteem Needs)

การที่จะมีชื่อเสียงเกียรติยศ ได้รับการเคารพยกย่องในสังคม ต้องการให้ผู้อื่นยอมรับนับถือว่าเป็น

บุคคลมีค่า

ขั้นที่ 5 ความต้องการประจักษ์ในคุณค่าของตนเอง(Self-Actualization)

ความต้องการที่จะประสบความสำสร็จหรือสมหวังในชีวิต อยากจะทำ อยากเป็นในสิ่งที่ตนหวังไว้

ฝันไว้ ได้ทำอะไรตามที่ตนต้องการจะทำ


วันนี้ฝนตก 10:40 นาที และหยุดเวลา 10:48 นาที แต่ความต้องการของมนุษย์ยังไม่หยุดตามฝน
ทุกคนก็ยังทำงานตามปกติ เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ แต่กว่าจะได้มันมาเราต้องแลกกับสิ่งที่เรามี ไม่ว่า
แรงกาย ความรู้ หรือในสิ่งที่เราสามารถทำได้เพื่อแลกกับเงินที่สามารถนำไปใช้จ่ายในแต่ละวัน ตามลำดับ
ขั้น 5 ขั้น ของมาสโลว์ ดิฉัน และ มนุษย์ทุกๆๆ คน ก็ทำตามกฎ 5 ข้อนี้อยู่ ไปในแต่ละวัน เช่น ในชีวิตประจำวันของดิฉันก็ต้องการกฎข้อนี้เหมือนกัน ฉันมีเครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย อาหาร ของใช้ และความปลอดภัยของชีวิตในการประกันอุบัติเหตุ ในการสวมหมวกกกันน็อกเวลาขับมอไซด์จะทำให้เรารู้สึกปลอดภัย
การไปมหาวิทยาลัยทำให้เราได้ความรู้และได้สังคมใหม่ๆๆทำให้มีคนรู้จักมากขึ้นมีเพื่อนมากขึ้น และได้เรียนรู้ในโลกมหาวิทยาลัยได้เรียนรู้ในสิ่งที่อยากรู้จากอาจารย์ผู้สอนและในตรงนี้ในการศึกษาเล่าเรียนภายในเวลา 4 ปี ที่จะทำให้ดิฉันเรียนรู้เกี่ยวกับรัฐประศาสนศาสตร์ และเรียนจบอย่างความภาคภูมิใจ แต่ในระยะเวลา 1 ปีที่กำลังศึกษาอยู่นี้ดิฉันต้องพยามยามเป็นอย่างสูงเพื่อได้ขึ้ปี 2 และ ปี 3 จนถึงปี 4ให้ได้.........

(โดย นางสาวจันทิมา สิทธิการ รปศ. 531 เลขที่ 8)





















ทฤษฎีองค์การว่าด้วยศาสตร์แห่งการบริหาร โดย เฮอร์เบิร์ต ไซมอน

เฮอร์เบิร์ต ไซมอน ได้ให้มุมมองไว้ว่า หลักการบริหารมีปัญหาอุสรรคที่ไม่อาจดำเนินการได้ เนื่องจากมีข้อจำกัดในเรื่อง "ค่านิยม "ความแตกต่างด้านบุคคลิกภาพของปัจเจกบุคคล โครงสร้างทางสังคมจึงผันแปรตามวัฒนธรรมเช่น หลักข่อบข่ายการควบคุมสะท้อนให้เห็นว่า ผู้บริหารสามารถบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อเมื่อควบคุมบังคับบังคับบัญชาลูกน้องจำนวนจำกัด
ดิฉันได้มีโอกาสเข้าไปในบริษัทผลิตอาหารกระป๋องแห่งหนึ่งในจังหวัดสงขลาและได้เห็นการทำงานของกลุ่มคนมากมายซึ่งภายในมีความชุลมุนวุ่นวายเนื่องจากพนักงานบางกลุ่มเกิดมีปากเสียงกันมีความคิดเห็นไม่ตรงกันทำให้การทำงานมีปัญหาทำให้ความผิดพลาดและมีความล่าช้ามากในการทำงานจำเป็นต้องมีผู้จัดการลงมาคอยควบคุมและแยกพนักงานออกเป็นกลุ่ม ๆและมอบหมายงานตามความสามารถของตนนอกจากนี้ผู้จัดการสามารถเข้ามาดูแลควบคุมได้อย่างทั่วถึง
ดิฉันคิดว่าความเข้าใจกันและเปิดใจที่จะรับฟังทำให้งานทุกงานย่อมเกิดความผิดพลาดน้อยที่สุดค่ะ และงานทุกงานก็จะมีประสิทธิภาพตามที่ต้องการ




กลอนวันครู

ถึงวันครูให้รำลึกอยู่ในจิต

ผู้ฝึกคิดฝึกอ่านและสั่งสอน

จริยธรรมคุณธรรมเป็นอาภร

ครูพร่ำสอนจรเด็กให้เป็นคน

ครั้งละบาทนับไม่ควรค่าเรือจ้าง

ที่ทั้งสร้างทั้งคิดคิดประสิทธิ์ผล

ครูสร้างคนสร้างชาติดังเครื่องกล

บังเกิดผลอันดีแก่ศิษย์เอย

(โดย นางสาว ทัศนีย์ จันทร์เพชรศรี เลขที่ 15 รปศ.531)





























วันพฤหัสบดีที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เฟรดเดอริค เทย์เลอร์

หลักการจัดการแบบวิทยาศาสตร์เฟรดเดอริค เทย์เลอร์ ได้เสนอความเห็นในบทความเรื่อง"The Principle of Scientfic Management"ว่า การบริหารงานตามวิทยาศาสตร์การจัดการเป็นวิธีที่ดีกว่าการอาศัยหลักเคยชิน ซึ่งเป็นหลักการทำงานตามประสบการณ์ของแต่ละคน โดยเรื่องว่า ภายใต้การบริหารแบบเดิมนั้นผู้บริหารมีหน้าที่น้อยมาก ทั้งนี้ผู้บริหารจำเป็นต้องมีหน้าที่ ดังนี้1.สร้างหลักการทำงานที่เป็นวิทยาศาสตร์2.คิดเลือกคนงานตามหลักกฎเกณฑ์วิทยาศาสตร์เพื่อเหมาะสมกับงาน3.พัฒนาคนงานให้เรียนรู้หลักการทำงานแบบวิทยาศาสตร์4.สร้างบรรยากาศการร้ฃ่วมมือระหว่างผู้บริหารกับคนงานเป้าหมายของการจัดการทำงานในแบบของเทย์เลอร์นั้นเป็นการจัดการแบบวิทยาศาสตร์ จะทำให้หน่วยงานต่าง ๆ สามารถทำงานไอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้บริหารสามารถบริหารหน่วยงานได้อย่างเต็มที่ และบุคลากรในหน่วยงานก็จะทำงานได้อย่างเต็มที่การทำงานจะสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีนั้นจำเป็นต้องมีหลักการบริหารอย่างมีระบบ และมีประสิทธิภาพเพื่อให้ได้ผลประโยชน์ที่มั่นคง
การแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับทางด้านวิทยาศาสตร์เช่น การลดน้ำหนักเริ่มจากการลดพลังในอาหารให้อยู่ประมาณ1500แคลอรี่ต่อวันเราก็สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้



กลอนวันครู

พลังแห่งแม่พิมพ์ผู้สร้างชาติ
ก่อให้เกิดนักปราชญ์ชาญศึกษา
เป็นกำลังให้ชาติพัฒนา
ซึ่งนำพาความรุ่งเรืองสู่ผองไทย
มาถึงวันสำคัญอาจารย์ศิษย์
ควรนึกคิดถึงพระคุณที่ท่านให้
ท่านอุตส่าห์เสียสละมาเท่าใด
ควรจำไว้และตอบแทนพระคุณเอย

(โดย นางสาว ฉวีวรรณ บุญศรี เลขที่ 11 รปศ.531)